Share:
ผบ.ตร.เปิดสายด่วนรถหาย แจ้ง “1192”ผบ.ตร.เปิดสายด่วนรถหาย แจ้ง “1192”“อดุลย์ แสงสิงแก้ว” ร่วมเปิดโครงการ “สายด่วนรถหาย” แจ้ง 1192 และ http://polislostcar.police.go.th หรือ www.รถหาย.com พร้อมด้วยหน่วยงานที่รับผิดชอบ และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบเกี่ยวกับรถหาย ทั้งภาคประชาชนและภาคเอกชน เพื่อเป็นแนวทางในการป้องกันรถหายและกลโกงในรูปแบบต่างๆ วันนี้ (26 มี.ค.) ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดโครงการประชุมขอความร่วมมือและประชาสัมพันธ์
http://polislostcar.police.go.th หรือ
www.รถหาย.com และสายด่วนหมายเลข 1192 รับเรื่องการโจรกรรมรถ โดยมี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปราม และหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้แก่ บช.น., ภ.1-9, ศชต., ก., ตชด., ปส., สทส., สยศ.ตร., สท., สลก.ตร., หัวหน้าชุดปฏิบัติการ 1-3, ฝ่ายประมวลผล ศปจร.ตร. รวมทั้งผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบเกี่ยวกับรถหายทั้งในส่วนของภาคประชาชนและภาคเอกชนที่จะมาสนับสนุนการทำงานของ ศปจร.ตร.เข้าร่วมการเปิดโครงการดังกล่าว
พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปจร.ตร.) เปิดช่องทางการรับแจ้งผ่านทางโทรศัพท์สายด่วน 1192 และเปิดเว็บไซต์
http://polislostcar.police.go.th หรือ
www.รถหาย.com ซึ่งจะเป็นช่องทางในการรับฐานข้อมูลรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรม การแจ้งสกัดจับ การให้บริการข้อมูลกับประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบสถานะของรถผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางรับแจ้งเบาะแสการโจรกรรมรถจากประชาชนอีกด้วย
พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวต่อว่า โดยจะมีการทำงานที่ควบคู่กัน คือ สายด่วน 1192 และ
http://polislostcar.police.go.th หรือ
www.รถหาย.com ในการแจ้งสกัดจับรถที่ถูกโจรกรรม รถหายหรือการให้ติดตามรถ และส่งข้อมูลทาง sms เพื่อให้จุดสกัดจับทั่วประเทศดำเนินการสกัดจับ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสับเปลี่ยนหมุนเวียนปฏิบัติหน้าที่รับแจ้งเหตุตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีการนำเทคโนโลยี และอุปกรณ์เครื่องมือที่ทันสมัย มาช่วยสนับสนุนในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจตามด่านจุดตรวจ จุดสกัดจับ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ด้าน พล.ต.อ.สมยศกล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาความร่วมจากภาคเอกชนในการขับเคลื่อนศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ จักรยานยนต์ ให้บรรลุตามแผนและยุทธศาสตร์ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดขึ้น และเป็นการบูรณาการความร่วมมือจากหน่วยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งภาคประชาชน เพื่อร่วมกันป้องกันปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ จักรยานยานต์ เพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เมื่อมีเหตุรถหายเกิดขึ้น เจ้าของรถมักจะโทร.แจ้งศูนย์วิทยุ 191 หรืออื่นๆ เพื่อให้มีการสกัดจับ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศูนย์ไม่สามารถตรวจสอบว่าผู้แจ้งหรือการแจ้งเป็นเรื่องจริงหรือไม่ จึงทำให้การปฏิบัติเป็นไปค่อนข้างยากลำบาก และบางครั้งเมื่อไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ เจ้าของรถไม่ได้นำเอกสารหลักฐานมาแสดงอย่างครบถ้วน ทำให้กว่าจะเข้าสู่ขั้นตอนการแจ้งสกัดจับจึงใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3-4 ชั่วโมง ดังนั้นสิ่งสำคัญเมื่อประสบเหตุหรือพบเห็นการถูกโจรกรรมรถ คือ การรับแจ้งและการกระจายข่าวข้อมูลรถหาย โดยแจ้งมาสายด่วนรถหาย “1192” หรือ
http://polislostcar.police.go.th หรือ
www.รถหาย.com นอกจากการเปิดตัวสายด่วนและเว็บไซต์แล้ว ภายในงานยังมีการแนะนำคู่มือการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถซึ่งได้จัดทำให้แก่ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ตำรวจเพื่อเป็นแนวทางในการป้องกันรถหายและกลโกงในรูปแบบต่างๆ ด้วย
ตรวจสอบข้อมูลรถหาย ผู้แจ้งตรวจสอบข้อมูลรถ แสดงความคิดเห็น และ แจ้งเบาะแส รถใครถูกสวมทะเบียนที่มา..http://www.manager.co.th/crime/viewnews.aspx?NewsID=9560000036850